อึ้ง!! ’’บ๊วย’’ เตรียมแต่ง ’’โม’’ ด้าน’’ตุ๊ก’’เผยอีกฝ่ายมีสิทธิ์อยู่แล้ว
ตุ๊ก ชนกวนันท์ |
นักแสดงสาว ตุ๊ก ชนกวนันท์ รับสภาพจิตใจแข็งแรงดีแล้ว หลังควงอดีตสามี บ๊วย เชษฐวุฒิ จดทะเบียนหย่าเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนออกปากเห็นใจฝ่ายชายถูกกระแสวิจารณ์รักลูกไม่เท่ากัน ส่วนเรื่องทรัพย์สินเคลียร์กันลงตัว รับตัดสินใจขายบ้านย่านรามอินทรา อุบสาเหตุปิดฉากชีวิตคู่และไม่ขอตอบเรื่องมือที่สาม ส่ายหน้าไม่รู้กระแสข่าวลือ หนุ่มบ๊วย เล็งหาฤกษ์แต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่เคยเป็นข่าวด้วย!!!
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากหย่าขาดอดีตสามี บ๊วย เชษฐวุฒิ ได้ไม่นาน ตุ๊ก ชนกวนันท์ เผยว่า
"สภาพจิตใจก็คงเป็นปกติค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เราต้องยอมรับว่าเราอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ ทุกอย่างดำเนินไปเราก็ทำทุกอย่างที่เราคิดว่าลูกผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้ดีที่สุด แล้วพี่ตุ๊กคิดว่าพี่ตุ๊กทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว และเมื่อมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราปรารถนาและจบลงด้วยความอ่อนแอเราก็พับเก็บไป วันนี้เราสบายใจแล้ว เพราะทุกสถานการณ์น่าจะมีทางออกของมันในทางที่ดีที่สุด"
"ตอนนี้เราต้องเข้มแข็ง ถามว่าให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้างไม่รู้ว่าจะต้องให้ยังไง แต่เราคิดเสมอว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เรารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร เราไม่อยากให้แม้แต่เพียงเสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกเราที่จะให้ลูกรู้สึก เฉพาะนั้นเราต้องเข้มแข็งเพราะว่าเขายังต้องพึ่งพาและเชื่อมความรู้สึกกับเราอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากเป็นเด็กเล็กๆ (รู้สึกอย่างไรบ้างที่อดีตสามีโดนโจมตีค่อนข้างเยอะ?) ก่อนหน้านี้ตุ๊กน่าจะเป็นคนที่สนิทที่สุดและเราผูกพันกันมาก อะไรที่เขาไม่สบายใจ เราก็น่าจะรู้สึกไม่สบายใจอาจจะใช้คำว่าเห็นใจหรือเปล่าก็อยากเห็นเขามีความสุขไม่อยากให้รู้สึกแบบนี้"
"ส่วนสาเหตุที่ต้องจบชีวิตคู่เราบอกเลยว่าไม่มี เพราะเราไม่มีความต้องการที่จะจบแบบนี้ ตุ๊กไม่มีสาเหตุ แต่ถ้าจะถามคือชีวิตคู่ต้องถูกเห็นชอบด้วยคนสองคน ถ้าใครคนหนึ่งคิดว่าจะยกเลิก ฉะนั้นอีกคนก็ดำเนินต่อไปไม่ได้แน่ๆ (เป็นเพราะมีมือที่สามเข้ามาใช่ไหม?) คำถามนี้ไม่ถามแล้วมั้ง (หัวเราะ) ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตุ๊กก็พยายามของตุ๊กคือถ้าเรายังเห็นแก่ตัวกับความต้องการของตัวเองอยู่ แต่ว่าเราไม่ได้มือเปล่าซ้ายก็ลูกขวาก็ลูก คนหนึ่งยังต้องอุ้ม คนหนึ่งยังต้องจูง มันจะไปไหนไม่ได้และอาจจะล้มกันทั้งหมด ฉะนั้นทุกอย่างมันคงถึงจุดที่ต้องเคลียร์ (ก่อนหน้านี้ยังเห็นรูปที่อยู่กันพร้อมครอบครัวในวันเกิดน้องพราว?) ตุ๊กเชื่อว่าวันเกิดปีต่อไปคงเป็นอย่างนั้น เพราะว่ามันเป็นวันเกิดลูกอย่างที่พี่บ๊วยบอกเรายังต้องเป็นพ่อ เป็นแม่ ฉะนั้นกิจกรรมแบบนั้นมันต้องดำเนินอยู่ (มีข่าวว่าบ๊วยขอเลิกตอนที่ลูกคนเล็กคลอดได้ 20 วัน?) ลืมไปแล้ว (หัวเราะ) เอาเป็นว่าวันนี้ก็เป็นอย่างนี้แล้ว (วันที่หย่าเป็นลมจริงไหม?) วันนั้นไปอยู่โรงพยาบาลจริงๆ ก็อย่างที่พี่บ๊วยบอกว่าเรามีนัดสุขภาพ ส่วนเรื่องเป็นลมมันมีบ้างอยู่แล้วในระหว่างเรื่องลูก เพราะเราเป็นโรคไมเกรน สรุปว่าไม่ได้หย่าแล้วเป็นลม อาจจะมีการสื่อสารกันผิด''
พอถามต่อถึงกระแสข่าวว่า พิธีกรอารมณ์ดี บ๊วย เชษฐวุฒิ รักลูกไม่เท่ากัน สาวตุ๊ก ตอบว่า
"เราไม่เชื่อว่าพ่อแม่จะรักลูกไม่เท่ากันและเชื่อว่าลูกทั้งสองซึมซับความรักจากพี่บ๊วยได้ แต่บางครั้งการสัมภาษณ์เหมือนตอนนี้ด้วย บางทีคนที่ถูกสัมภาษณ์อาจจะกังวลหลายอย่าง มีความเครียด ความกดดันคิดว่าน่าจะเป็นการพูดเร็วมากกว่าคงไม่ได้หมายความแบบนั้นก็ต้องเข้าใจเขาค่ะ (ลูกๆ ถามถึงพ่อบ้างไหม?) เขายังมีคุณพ่อเหมือนเดิมและได้เจอกันบ้าง (ทรัพย์สินแบ่งอย่างไรบ้าง?) อย่างที่พี่บ๊วยบอกไปว่าตุ๊กเป็นคนดูแลลูกเป็นหลัก ส่วนเรื่องสินสมรสก็ปฏิบัติตามที่เราตกลงกันไว้ (เห็นบอกว่าจะขายบ้าน?) อาจจะต้องใช้วิธีนั้น เพราะจริงๆ แล้วทุกคู่คงต้องมีการจัดการเรื่องสินสมรส ซึ่งตอนนี้ตุ๊กยังอยู่บ้านหลังนั้นกับลูกแต่ถ้าบ้านถูกขายจริงๆ คงต้องย้ายออกไปอยู่กันเองแม่ลูกค่ะ (หัวเราะ) ''
"แต่ตอนนี้บ้านพี่บ๊วยเป็นคนผ่อนเพียงผู้เดียว ถ้าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็มีความประสงค์จะยกให้ลูกอยู่แล้ว (มีข่าวว่าตุ๊กจะย้ายไปต่างประเทศกับลูก?) คือเราก็ไปเที่ยวตามปกติค่ะ อย่างน้องแพรวเขามีพาสปอร์ตแล้ว ตั้งแต่ขวบหนึ่ง ซึ่งพี่บ๊วยกับเราพาน้องแพรวไปเที่ยวกันบ่อยๆ แต่น้องภูมิเพิ่งจะพาไปทำเดี๋ยววันอาทิตย์ก็จะไปเที่ยวเกาหลีกันแล้วไปกับครอบครัวค่ะ (หากวันข้างหน้าบ๊วยตัดสินใจแต่งงานใหม่จะโอเคไหม?) ก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของเราแล้ว (มีข่าวว่าบ๊วยขอผู้หญิงที่เคยเป็นข่าวแต่งงาน หลังจากหย่ากันแล้ว?) อันนี้ไม่รู้เรื่องค่ะ ไม่ขอพูดถึงเรื่องของอื่นแล้วเนอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น